แนะนำการอ่านหนังสือเตรียมสอบตำรวจอย่างไรให้ได้ผลดี

8 ปีที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

ติวสอบตำรวจที่ไหน อ่านหนังสือเตรียมสอบตำรวจอย่างไรให้ได้ผลดี

ก็เป็นโอกาสดีสำหรับผู้ที่หวังอยากรับราชการตำรวจชั้นประทวน โดยในครั้งนี้รับ กลุ่มงานอำนวยการและสนับสนุน และกลุ่มงานเทคนิค (สาย อก.1, คฝ.2 และ พฐ.3) จำนวน 985 อัตรา และเปิดโอกาสให้ผู้หญิงสามารถสมัครสอบเป็นตำรวจหญิงได้ในสายงานอำนวยการ และกำหนดอายุผู้สมัครสอบทั้งชาย/หญิงไว้ที่ 18 - 35 ปี ก็เป็นผลดีสำหรับผู้ที่หวังอยากรับราชการตำรวจ แต่อายุเกิน 27 ปี ที่ไม่สามารถสมัครสอบนายสิบตำรวจได้ แต่!!!ในการที่เปิดรับทั้งเพศชายและหญิงและขยายอายุผู้ที่จะสมัครไปถึง 35 ปี ทำให้เกิดการแข่งขันที่สูง ผู้สมัครสอบต้องเตรียมตัวให้มากกว่าการสอบนายสิบตำรวจ เพราะนอกจากจะเจอกับจำนวนผู้สมัครที่มากมายแล้วยังจะเจอกับคะแนนที่เบียดกันจนผลต่างระหว่างคะแนน 1 คะแนน ลำดับที่อาจตกไปเป็นร้อยลำดับ ดังนั้นทุกคะแนนสำคัญมากๆ และถ้าหากคะแนนเท่ากันกรรมการจะดูที่ผลคะแนนภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งก่อนใครได้เยอะกว่าก็จะลำดับดีกว่า และหากดูภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งคะแนนเท่ากันอีกกรรมการจะดูคะแนนวิชาภาษาไทยใครคะแนนดีกว่าก็อยู่ลำดับที่สูงกว่า และหากดูผลคะแนนวิชาภาษาไทยแล้วคะแนนยังเท่ากันอีก(มีความเป็นไปได้เพราะมีผู้สมัครสอบจำนวนมาก) กรรมการจะดูที่ลำดับที่สมัครสอบ ใครสมัครก่อนคนนั้นได้ลำดับที่สูงกว่า!!! ดังนั้นผู้สมัครสอบควรจะสมัครสอบให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อที่จะมีลำดับที่ดีกว่าหากผลคะแนนรวมเท่ากัน แต่ถ้าหากคุณเก่งจริงก็อย่าได้สนใจทำคะแนนให้ได้เยอะๆกว่าคนอื่นเท่านี้ลำดับที่สมัครสอบก็ไม่มีผลแล้ว

ในการเปิดสอบตำรวจในแต่ละครั้งก็จะมีผู้สมัครสอบเป็นจำนวนมาก ดังนั้นคุณจะต้องเตรียมตัวในการสอบเป็นอย่างดี หลายๆคนคิดหาที่ติวสอบตำรวจ หลายๆคนเตรียมตัวอ่านหนังสือเอง สิ่งที่อยากจะแนะนำคือ

สำหรับผู้ที่คิดจะติวสอบตำรวจ
จะเหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยสอบตำรวจ หรือยังไม่เคยผ่านการสอบรับราชการเลย ซึ่งคุณจะไม่รู้แนวทางในการทำข้อสอบ แนวข้อสอบในปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร อะไรควรทำก่อน ข้อไหนควรทำหลัง การรักษาเวลาในการสอบ เป็นไปได้ยากที่ผู้เข้าสอบครั้งแรกจะประสบผลสำเร็จเลยหากไม่ได้ผู้ช่วยที่ดี หรือมีการเตรียมการที่ดีพอ
หากคุณตั้งใจแล้วว่าจะติว คุณก็ต้องดูว่าควรจะติวกับสถาบันไหน ซึ่งมีมากมาย สิ่งที่คุณต้องคำนึงคือเรื่องวัน เวลา ในการติว บางคนว่างตลอดก็สามารถติวช่วงกลางวันได้ บางคนทำงานไปด้วยก็ต้องติวช่วงกลางคืนหรือเสาร์อาทิตย์ สิ่งที่ต้องคำนึงอีกคือราคา ก็ให้ดูตามงบเราว่าควรจะเลือกติวราคาเท่าไหร่
ถ้าคุณตัดสินใจติวแล้ว คุณก็ไม่จำเป็นต้องไปซื้อหนังสือคู่มือเตรียมสอบอีก เพราะทางสถาบันติวก็เตรียมเอกสารไว้ให้คุณแล้ว ข้อดีของการติวอีกข้อคือเป็นการกระตุ้นให้เราต้องอ่านหนังสือให้มากให้คุ้มค่ากับเงินที่ได้จ่ายไป

สำหรับผู้ที่จะอ่านหนังสือเอง
เหมาะสำหรับผู้เคยสอบตำรวจมาแล้ว รู้แนวทางในการอ่าน รู้ว่าภาษาไทยเคยออกสอบแบบไหน คอมพิวเตอร์ สังคม จริยธรรม ความรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียน จะถามไปแนวไหน เมื่อรู้แนวข้อสอบแล้วคุณก็สามารถหารายละเอียดต่างๆตามเว็บไซต์แล้วพิมพ์ออกมาอ่านได้ตามต้องการ หรือจะซื้อคู่มือเตรียมสอบจากสถาบันต่างๆที่วางจำหน่ายโดยดูเนื้อหาว่าครอบคลุมวิชาที่สอบหรือไม่
ในการเลือกซื้อหนังสือเตรียมสอบตำรวจหากได้ซื้อด้วยตนเอง ได้ลองอ่านเนื้อหาในเล่มดูก่อนจะดีกว่าที่ซื้อโดยไม่ได้อ่านเนื้อหาเลย เพราะคุณจะได้ดูเนื้อหาในเล่มว่าเป็นปัจจุบันหรือไม่ เนื้อหาสาระในหนังสือละเอียดมากน้อยอย่างไร

ในการเปิดสอบเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการแต่ละครั้ง ในจำนวนผู้สมัครสอบทั้งหมดจะมีผู้ที่เตรียมพร้อมเพื่อการสอบแข่งขันจริงๆประมาณครึ่งเดียว อีกครึ่งจะไม่ได้เตรียมตัว บางคนมาดูข้อสอบ บางคนมาสอบเผื่อฟลุก อีกส่วนขาดสอบ
หากคุณเห็นจำนวนผู้สมัครสอบที่มีจำนวนมากก็อย่าได้ไปท้อ จะยกตัวอย่างจากการเปิดสอบของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ที่เปิดสอบทั้งประเทศครั้งล่าสุดที่ผ่านมา มีจำนวนผู้สมัครสอบหลายแสนคน แต่มีผู้มาสอบจริงไม่ถึงครึ่ง และมีผู้สอบผ่านภาค ก และภาค ข ไม่ถึง 5 % บรรจุไม่ครบตามจำนวนอัตราว่างที่มีอยู่ จนกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นต้องสำรวจอัตราว่างเพื่อเตรียมเปิดสอบอีกครั้งในตำแหน่งที่ยังมีอัตราว่างเหลืออยู่

การอ่านหนังสือเตรียมสอบ อยากให้คุณสนใจเตรียมตัวให้มาก ให้ลดกิจกรรมอื่นที่ไม่จำเป็นออกไปจากกิจวัตรประจำวัน เช่น เล่นโซเชียล line facebook เกมออนไลน์ต่างๆ หรือการเที่ยว การดื่ม การพบปะสังสรรค์ที่เกินความจำเป็นออกไปก่อน
กำหนดการสอบข้อเขียนคือวันที่ 29 พฤศจิกายน 2558 ดังนั้นคุณจะเหลือเวลาในการเตรียมตัวสอบ 2 เดือนเศษๆ ในเวลาที่เหลือให้คุณจัดทำตารางในการอ่านเนื้อหาวิชาที่ออกสอบให้ครบทุกวิชา และต้องเหลือเวลาให้ทบทวนเนื้อหาอีกครั้งด้วย
เช่น ยกตัวอย่าง
วันที่ 20 - 30 กันยายน จัดเตรียมเนื้อหาวิชาที่จะออกสอบโดยค้นหาจากอินเทอร์เน็ต หรือร้านหนังสือ รวบรวมให้ครบคลุมเนื้อหาให้มากที่สุด
1 - 7 ตุลาคม อ่าน ความสามารถทั่วไป (40 ข้อ)
8 - 15 ตุลาคม อ่าน ภาษาไทย (20 ข้อ)
16 - 23 ตุลาคม อ่าน คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสำนักงาน (30 ข้อ)
24 - 31 ตุลาคม อ่าน สังคม วัฒนธรรมและจริยธรรม และความรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียน (20 ข้อ)
1 - 7 พฤศจิกายน สำหรับผู้มีพื้นฐานภาษาอังกฤษอยู่บ้างก็ให้ทบทวน คำศัพท์ หลักไวยากรณ์ การสนทนา ไว้ด้วย แต่ถ้าหากคุณไม่เก่งอังกฤษเลย อ่านไม่ออกแปลไม่ได้ ก็อย่าไปกังวลให้เอาเวลาที่เหลือไปทบทวนวิชาอื่นดีกว่า ผู้ไม่เก่งอังกฤษแต่สอบได้เป็นตำรวจก็มีเช่นกัน (วิชาภาษาอังกฤษออกข้อสอบ 40 ข้อ) ให้คุณทบทวนวิชาที่อ่านไปแล้วข้างต้นอีกครั้ง และผ่อนคลายบ้าง พักสมองบ้างแล้วกลับมาอ่านหนังสือต่อ

2 - 6 พฤศจิกายน อ่าน ความสามารถทั่วไป
7 - 12 พฤศจิกายน อ่าน ภาษาไทย
13 - 17 พฤศจิกายน อ่าน คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสำนักงาน
18 - 22 พฤศจิกายน อ่าน สังคม วัฒนธรรมและจริยธรรม และความรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียน
23 - 28 พฤศจิกายน เช่นเดิม สำหรับผู้มีพื้นฐานภาษาอังกฤษอยู่บ้างก็ให้ทบทวน คำศัพท์ หลักไวยากรณ์ การสนทนา ไว้ด้วย แต่ถ้าหากคุณไม่เก่งอังกฤษเลยสำหรับเวลาที่เหลือจนถึงวันสอบก็ให้ทบทวนเนื้อหา ฝึกทดลองทำข้อสอบ และวางแผนเตรียมตัวในการเดินทาง

การอ่านหนังสือควรอ่านให้จบสักเรื่องหรือจบหัวข้อ แล้วให้กลับมาทบทวน จะทำให้เราจำได้ดีขึ้น
สิ่งที่เป็นอุปสรรคในการอ่านหนังสือเตรียมสอบคือ สิ่งเร้าต่างๆที่จะทำให้คุณอยากจะวางหนังสือลงแล้วทำตามใจที่อยากจะทำ เช่น บางคนกำลังอ่านหนังสืออยู่พอได้ยินเสียง line เสียง facebook เข้ามาก็วางหนังสือไปตอบข้อความที่เพื่อนส่งมา แล้วค่อยมาอ่านต่อ แล้วอย่างนี้จะมีสมาธิในการอ่านได้อย่างไร จงปิดโซเชียลเมื่อคุณจะอ่านหนังสือเตรียมสอบเสีย
บางคนกำลังอ่านหนังสือเพื่อนโทรมาชวนไปเที่ยวไปดื่ม เที่ยวกลับมาดึกดื่นก็ไม่ได้อ่านหนังสือส่งผลกับวันต่อมาพอจับหนังสือขึ้นอ่านได้หน้าสองหน้าก็ง่วงหลับไป

สุดท้ายนี้อยากจะแนะนำว่า คุณมีเวลาแค่ 2 เดือน จงตั้งใจอ่านหนังสือ ระยะเวลาแค่สองเดือนอาจจะเปลี่ยนชีวิตคุณได้ ยอมเหนื่อย เพื่อจะสบายใจมีงานทำที่มั่นคงไปจนเกษียณอายุราชการ

- วิชาที่ออกข้อสอบตำรวจ ประจำปี 2558